ความล้มเหลว
ความล้มเหลว คือสถานะหรือสภาวะที่ไม่ประสบกับจุดมุ่งหมายดังที่ต้องการหรือที่ตั้งใจ
หรืออาจมองได้ว่ามีความหมายตรงข้ามกับความสำเร็จ ความล้มเหลวนั้น ไม่ว่าจะเป็นใครชีวิตก็ย่อมต้องผ่านทั้งความล้มเหลวและความผิดหวัง
แต่ก็มีเพียงไม่กี่คนที่จะสามารถฟันฝ่าความล้มเหลวนั้นมาได้ โดยเฉพาะคนที่พึ่งจะเริ่มต้นหาความสำเร็จ
เมื่อเจอความล้มเหลวในครั้งแรก ก็มักจะท้อแท้ต่อชีวิต บางคนถึงขั้นถอดใจ
ล้มเลิกเป้าหมายไปเลย เมื่อเราเผชิญความล้มเหลวครั้งแรก
ให้เรานึกถึงว่าคนที่เขาประสบความสำเร็จเขาก็เคยผ่านจุดๆแรกๆไปเหมือนเรา
เราควรที่จะต่อสู้กับมันอย่างมีสติ และยามที่เราท้อใจ
ให้นึกถึงเป้าหมายที่เราวางไว้ว่าถ้าหากมันสำเร็จเราจะมีความสุขมากแค่ไหน
เพียงเท่านี้เราก็สามารถสร้างกำลังใจให้ตนเองได้
ที่สำคัญการที่เราจะพยายามทำในสิ่งที่มีเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่
เราควรฝึกที่จะมองโลกในเชิงบวกเข้าไว้ มันจะทำให้เรามีกำลังใจเพื่อสู้ไปสู่เส้นชัยได้เร็วยิ่งขึ้น
“ถ้าคุณต้องการความสำเร็จ มากขึ้นหนึ่งเท่าตัว
จงเพิ่มความล้มเหลว เป็นสองเท่าตัว”
T.Watson Jr. ผู้ก่อตั้งบริษัท IBM…..
เชื่อได้ว่าไม่
มีใครบนโลกนี้เกิดขึ้นมาโดยปราศจากความล้มเหลวในชีวิต
นอกเสียจากว่าคนผู้นั้นจะใช้ชีวิตอย่างระมัดระวังอย่างมากเสียจนชีวิตนี้ไม่เกิดมาเลยซะยังจะดีกว่าแต่ถึงอย่างไรนั่นก็ถือว่าชีวิตเขาได้ล้มเหลวไปแล้วโดยอัตโนมัติ
ความล้มเหลวของชีวิตเรานั้นมักสร้างทั้งความทุกข์และความหดหู่ทางใจให้กับเรา
ทำให้เรามองโลกไปในด้านลบและมักมองเห็นแต่ปัญหาต่างๆ
แต่ถึงอย่างไรเมื่อเราสามารถผ่านพ้นปัญหาเหล่านั้นไปได้
สิ่งที่ตามมาคือความเข้มแข็งที่มีมากกว่าเดิม เพราะเมื่อเราเคยเผชิญกับมัน
แล้วหากวันหนึ่งปัญหาเข้ามาในชีวิตเราอีกครั้งเราจะสามารถขจัดมันได้โดยที่ไม่ให้มันสามารถเกิดความล้มเหลวให้กับชีวิตเราได้อีกต่อไป
********************************************************************
ความล้มเหลวไม่ได้เป็นตัวชี้วัดความพ่ายแพ้
คนที่พยายามทำในสิ่งที่ตัวเองรัก หรือทำตามเป้าหมาย
หากแต่ไม่สำเร็จผลดังที่วางไว้
ไม่ถือว่าเป็นคนที่พ่ายแพ้เพราะเขาได้พยายามที่จะทำมันแล้ว คำว่าพ่ายแพ้
ควรจะใช้กับคนที่ไม่เคยแม้แต่คิดที่จะทำ หรือคิดที่จะพยายามทำอะไรสักอย่างมากกว่า
ชีวิตนี้ขออยู่ไปวันๆ ไม่อยากคิดอยากทำอะไรให้ตัวเองต้องลำบาก ต้องเหน็ดเหนื่อยและเดือนร้อน
คนเหล่านี้เหมือนอยู่บนโลกอย่างไร้ตัวตน จะอยู่หรือไม่อยู่ก็มีค่าเท่ากัน
เพราะไม่มีใครมองเห็นถึงสิ่งที่เขาทำ สิ่งที่เขาพึงปรารถนาอยากที่จะให้มันเป็นไป
ซึ่งบุคคลเหล่านี้เทียบไม่ได้เลยกับคนที่ล้มเหลวจากความพยายาม
การเป็นคนล้มเหลวที่กล้าหาญ
ยังดีกว่า การเป็นคนที่ไม่เคยล้มเหลว
เพราะไม่เคนลงมือทำอะไรเลย
ปราย
โสภาศิริ
อุปสรรคหรือตัวเราที่สร้างความล้มเหลว
“Obstacles
are those frightful things you see when you take your eyes off your goals.”
อุปสรรค
คือสิ่งที่น่าตกใจก็ต่อเมื่อ คุณไม่ได้มองไปที่จุดหมายปลายทาง
หากวันใดที่เราต้องเผชิญกับปัญหาและอุปสรรคต่างๆ
ให้เรานึกถึงเป้าหมายเป็นสิ่งสำคัญ ยิ่งอุปสรรคมีมากเพียงใดเราก็ควรที่จะแก้ไขอุปสรรคเหล่านั้นตามแต่ละเป้าหมายที่สำคัญ
โดยเลือกเป้าหมายหลักก่อนเป้าหมายรอง
เมื่อรู้เป้าหมายแล้วเราจึงลงมือจัดการกับอุปสรรค
ไม่ใช่รอแต่เพียงช่วงจังหวะเวลาที่ดีหรือที่เหมาะ
เพราะสิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นได้ก็จากตัวเรา
เพราะหากเราสามารถขจัดปัญหาและอุปสรรคต่างๆได้เราก็จะมองเห็นโอกาสและช่วงเวลาที่ดีของชีวิต
หากเวลาที่เราเจอปัญหาแล้วยอมปล่อยให้ตัวอุปสรรคเข้ามาขัดขวางเป้าหมายของเรา
โดยที่เราไม่พยายามที่จะขจัดมันออกไป
จุดหมายปลายทางที่เราวางไว้ก็จะศูนย์เปล่าทันที เพราะฉะนั้นสิ่งสำคัญคือเราควรยึดมั่นในเป้าหมายและทำทุกทางด้วยสติเพื่อขจัดอุปสรรคและสามารถผ่านไปยังเป้าหมายได้อย่างสมบูรณ์
เกิดใต้ฟ้าอย่ากลัวฝน
เกิดเป็นคนอย่ากลัวเหนื่อย
ภาษิตชาวนา
คนเราเกิดมาจะยากดีมีจน
สูงศักดิ์หรือต่ำชั้นเพียงไร ก็ล้วนอยู่ภายใต้ผืนฟ้าเดียวกัน
ไม่ว่าจะฝนตกแดดออก
อากาศจะร้อนหรือหนาวเพียงใด
คนทุกคนที่อยู่ใต้ผืนฟ้าเดียวกันย่อมรู้สึกร้อนหนาวเหมือนกัน
ทุกคนมีชีวิตก็ต้องดิ้นรนไม่ต่างกัน คนจนก็ดิ้นรนที่จะรวย
คนรวยก็ดิ้นรนหาเกียรติยศชื่อเสียง อยู่ที่เราจะมองเห็นถึงความเป็นจริงเหล่านั้นได้อย่างไร
ซึ่งมันก็ไม่ต่างจากการที่เราต้องทำงานหนักเหนื่อยแสนสาหัส
เราจะกลัวทำไมกับความเหนื่อยยากลำบากกาย
มันเป็นธรรมดาของทุกชีวิตที่เกิดมาล้วนต้องพบเจอ
แต่สิ่งสำคัญคือเราควรตั้งใจทำงานด้วยสติและจิตใจที่ผ่องใส
ยิ้มรับให้กับทุกอย่างที่ผ่านเข้ามาในชีวิต เพราะหากเรามัวแต่ กลัวความเหน็ดเหนื่อย
กลัวความยากลำบาก ชีวิตนี้เราคงอยู่บนโลกอย่างไม่สายใจ
เพราะคนทุกคนที่เกิดมาย่อมต้องเจอกับเรื่องเหล่านี้เป็นธรรมชาติ
เพราะทุกท่าทางของมนุษย์ต้องอาศัยกำลังแรงกายในการเคลื่อนไหว
หากเรากลัวเหนื่อยไปหมดทุกอย่าง จะวิ่งก็กลัวเหนื่อย อย่าว่าแต่วิ่งแค่เดินยังต้องนั่งรถ
ไม่ยอมที่จะเดิน ลองคิดดูสิเรื่องธรรมชาติที่เราต้องเจอแบบนี้เรายังรู้สึกเหนื่อย
อยากหลีกเลี่ยง อยากหาความสบายให้ตนเอง แล้วชีวิตนี้จะทำอะไรได้
ดังนั้นเราควรมองให้เป็นเรื่องธรรมชาติ คนเราจะเกิดมารวยมาจน ก็ต้องเหนื่อยเหมือนกัน
เพราะแต่ละคนก็จะต้องดิ้นรนไปตามทางของใครมัน
เพราะไม่มีใครพึงพอใจในสิ่งที่ตนเองมีมาตั้งแต่เกิดอยู่แล้ว เพราะคนทุกคนย่อมต้องดิ้นรนหาสิ่งที่ตนเองปรารถนาเพื่อให้ได้มาครอบครองกันอยู่แบบไม่มีวันสิ้นสุด
ความเหนื่อยจึงต้องอยู่คู่กับชีวิตเราต่อไป
จงอย่ากลัวกับสิ่งที่เป็นเพียงอุปสรรคถ้าเราไม่อยากสัมผัสคำว่าล้มเหลว
“อย่ากลัวการต่อต้าน จงจำไว้ว่า วาวจะลอยสูงได้ เมื่อทวนลม มิใช่ตามลม”
แฮลมิลตัน มาบี นักเขียน ศิลปิน
ธรรมชาติได้สร้างให้มนุษย์ต้องเกิดมาพบอุปสรรค
คนทุกคนล้วนต้องออกแรงดิ้นรนเพื่อให้ได้สิ่งทั่วเองปรารถนา
จนมีคำเปรียบเปรยว่า ถ้าแม้นผู้ใดประสงค์จะมีอนาคตที่ดี
มีความก้าวหน้าที่งดงามในชีวิต
ก็ต้องออกแรงต้านทานกับปัญหาต่างๆเหมือนที่วาวต้านลม
ยิ่งต้องต้านลมแรงวาวก็ยิ่งจะสูงขึ้น อุปสรรคหรือลมที่ต้านก็เปรียบเสมือนรางวัลชีวิต
ยิ่งมีอุปสรรคมากแสดงว่ารางวัลชีวิตเราก็ย่อมสูงขึ้นเรื่อยๆ
********************************************************************
บทเรียนของความล้มเหลว
ความล้มเหลวนั้นใช่ว่าจะเป็นเพียงเรื่องไม่ดีเสมอไป
คนที่เคยผ่านความล้มเหลวมาย่อมมีประสบการณ์มีเรื่องเล่าเพื่อเอาไว้เป็นกรณีศึกษาให้กับคนรุ่นหลัง
การที่มีคนเคยผ่านความล้มเหลว
คนเหล่านั้นก็เปรียบเสมือนตำราความรู้ที่ให้เราอ่านเราศึกษา
เพื่อที่จะได้รู้วิธีหลบหลีก และไม่เป็นการเสียเวลาเดินตามรอยความล้มเหลวนั้น
เพราะฉะนั้นคนที่เดินตามหลังอย่างเราย่อมมีโอกาส
ดีกว่าคือสามารถเรียนรู้ข้อผิดพลาดจากคนที่เคยล้มเหลวมาแล้ว
“Learn from the mistakes of others. You can’t live long
enough to make them all yourself.”
จงเรียนรู้จากความผิดพลาดของผู้อื่น
เพราะเราไม่สามารถเรียนรู้ ความผิดพลาดนั้นได้ทั้งหมด ในช่วงชีวิตของเราเอง
เรามักจะเคยได้ยินประโยคนี้อยู่บ่อยครั้ง
เป็นเพราะว่าตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันนั้น มีคนที่เคยล้มเหลวมานับไม่ถ้วน
และสุดท้ายคนเหล่านั้นก็คือคนที่ประสบความสำเร็จในปัจจุบัน
แน่นอนอยู่แล้วว่าคนเกิดก่อนย่อมอาบน้ำร้อนมาก่อน เขาจะรู้ถึงความผิดพลาดต่างๆที่เคยเผชิญ
และเมื่อเราเป็นคนรุ่นหลัง หรือเป็นคนที่เริ่มเรื่องตามหลังบุคคลเหล่านั้น
ก็ใช่ว่าเราจะต้องเดินตามรอยเท้า เราจึงจะสำเร็จเหมือนอย่างเขา
เขาเสมอไปเราควรนำข้อผิดพลาดที่เขาเคยได้รับเป็นบทเรียน
มันจะทำให้เราสำเร็จได้เร็วขึ้น เพราะมันถือเป็นการสอนไม่ให้เราเดินผิดซ้ำรอยเดิม
และเรายังมีโอกาสที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆมากขึ้นโดยที่ไม่ต้องเสียเวลาอีกด้วย
ความผิดพลาดของคนคนหนึ่ง
ย่อมเป็นบทเรียนให้กับอีกคนหนึ่งได้ และ จงเอาความผิดพลาดของผู้อื่น
มาเป็นบทเรียนสำหรับชีวิต จงเอาความสำเร็จขงผู้อื่นมาเป็นแนวทางประกอบกิจ
********************************************************************
“I don’t know the key to success, but the key to failure
is trying to please everybody”
ผมไม่รู้หรอกว่าอะไรคือ กุญแจสู่ความสำเร็จ
แต่ผมรู้ว่าการพยายามเอาใจทุกคน นั่นคือหนทางสู่ความล้มเหลว
บิล
คอสบี
บิล คอสบี นักแสดง พิธีกรรายการชื่อดังของอเมริกา
บิลปฏิเสธที่จะทำละครตามตามสูตรสำเร็จที่ว่า ต้องประกอบไปด้วยอัตราส่วนของคนขาว
คนดำ คนอเมริกาใต้ และคนเอเชีย เพื่อให้ละครที่ขายได้กับทุกกลุ่มเป้าหมาย
โดยบิลมองว่า การพยายามทำให้ทุกคนพอใจ เอาใจทุกฝ่าย
อาจทำให้เราสร้างสรรค์ผลงานออกมาไม่ดี เพราะความขี้เกรงใจคนทั่วไป
แต่ด้วยความเป็นตัวของตัวเองของเขนั่นเองจึงทำให้เขากลายเป็นบุคคลที่ประสบความสำเร็จจนได้รับความนิยมสูงสุดในยุคนั้น
เหมือนหลักการทำงานทั่วไป
ทุกวันนี้เรายังต้องทำงานเพื่อความต้องการของใครหลายคน ไม่ว่าจะเป็นเจ้านาย หรือ
ลูกค้า หลักการทำงานก็คงไม่ฉีกกรอบแนวคิดของลูกค้า หรือเจ้านายไปมาก
แน่นอนละว่างานทุกงานถ้าไม่ตอบโจทย์ลูกค้าแล้วจะขายได้อย่างไร แต่ลองคิดดูสิว่า
หากเราต้องทำงานให้กับคนอื่นในแบบที่เขาต้องการ แล้วก็เป็นแบบที่เราไม่ถนัด
ผลงานที่ออกมาถึงแม้ว่าจะดี แต่เชื่อเถอะว่าไม่มีงานชิ้นไหนดีเท่ากับรูปแบบงานที่เรารักและถนัด
เพราะฉะนั้นการทำงานไม่ว่าจะเป็นงานแบบไหน ชอบหรือไม่ชอบ ถนัดหรือไม่ถนัด
แต่สิ่งที่เราควรใส่ลงไปในชิ้นงานคือความพยายามและหัวใจที่เราจะสร้างสรรค์มันออกมาให้ดีที่สุด
โดยเฉพาะอย่างยิ่งงานธุรกิจที่เป็นงานของเราธุรกิจเรา
เงินก็ได้กับตัวเราเองแบบเต็มๆ
เราก็ยิ่งควรที่จะทำมันออกมาให้ดีที่สุดเพื่อให้เป็นที่ยอมรับต่อลูกค้าให้ได้มากที่สุด