โอกาสอยู่ที่ไหน

โอกาส
คนที่ประสบความสำเร็จเขามักจะแสวงหาโอกาสดีๆให้กับชีวิตตนเองเสมอ โอกาส คืออะไร โอกาสก็หมายถึงช่วงเวลา หรือ ช่วงจังหวะชีวิตที่ดีและเหมาะสม ที่สามารถทำให้เราเกิดความพึงพอใจต่อสิ่งนั้น แต่โอกาสในชีวิตของคนเราก็ไม่ได้มีเข้ามาบ่อยๆเสมอไป เพราะฉะนั้นใช่ว่าทั้งชีวิตนี้เราจะรอคอยแต่โอกาสเพียงอย่างเดียวเพื่อให้สิ่งที่เราปรารถนาประสบผลสำเร็จ เราควรจะแสวงหาโอกาสเหล่านั้นด้วยตนเองบ้างไม่ใช่เพียงรอแต่ให้โอกาสวิ่งมาชนเราอย่างเดียว คนเรานั้นหากจะประสบความสำเร็จได้คงไม่ใช่อาศัยแต่ช่วงจังหวะของโชคชะตาแต่ต้องอาศัยความพยายามของตนเอง เพราะความมานะพยายามมันคือช่องทางแห่งการสร้างโอกาสให้กับตัวเรา
                แต่ก่อนที่เราจะก้าวไปสู่ขั้นตอนการรับโอกาส เราควรเริ่มจากขั้นตอนการเปิดใจเพื่อเปิดรับโอกาส เพราะหากเราปฏิเสธตั้งแต่แรก เราจะไม่มีวันได้สัมผัสกับคำว่าโอกาสเลย อย่างแรกเราควรมองหาเป้าหมายในชีวิตเรา ไม่ว่าจะเป็นเป้าหมายเล็กๆหรือเป้าหมายใหญ่ๆ เช่นเราอาจจะเริ่มต้นจากการตั้งเป้าไว้ว่า ภายในหนึ่งสัปดาห์ เราจะลดน้ำหนักให้ได้ 1 Kg จะเห็นได้ว่าเพียงแค่เรามีเหมายก็เหมือนกับว่าเราได้เปิดโอกาสให้ตัวเราเอง มีแนวโน้มที่จะน้ำหนักลด 1 Kg แต่ถ้าเราตั้งเป้าหมายไว้แล้ว เราไม่มีเวลาทำตามสิ่งที่ตั้งไว้ ก็เหมือนกับว่าเราปล่อยให้โอกาสมันหลุดลอยไป
                โอกาสมันไม่ได้มีเข้ามาบ่อยๆถ้าเราปล่อยให้มันหลุดลอยมันก็จะไม่มีทางหวนกลับมา นอกจากว่าเราจะสร้างมันขึ้นมาด้วยตัวเรา และเมื่อเราได้รับมัน มันก็ขึ้นอยู่กับว่าเราใช้โอกาสนั้นคุ้มค่ามากน้อยเพียงใด เราพยายามเต็มที่กับโอกาสที่ได้รับหรือเปล่า แล้วสำเร็จดังเป้าหมายที่วางไว้หรือไม่ เพราะคนที่ได้รับโอกาสแล้วถ้าหากว่าใช้มันไม่คุ้มค่า ก็เหมือนกับเด็กที่ถือลูกโป่ง แต่แล้วก็ทำลูกโป่งหลุดมือไป แล้วเราคิดว่าตั้งแต่เกิดมาเราเคยเปิดโอกาสอะไรให้กับตัวเองบ้าง แล้วเคยสร้างโอกาสให้กับชีวิตแล้วหรือยัง หรือเราเป็นเพียงแค่บุคคลที่รอคอยโอกาสจากคนอื่นเหมือนการรอลุ้นหวย ถ้าเราคิดแบบนั้นคงไม่มีวันได้เฉียดแม้แต่ปลายเล็บของความสำเร็จ เพราะบนโลกนี้ไม่มีใครที่นอนรอโอกาสแล้วจะสามารถแจ้งเกิดตัวเองบนเวทีได้


ทำไมต้องแสวงหาโอกาส
                โอกาสมันไม่มีตัวตน จับต้องไม่ได้ แต่มันสามรถบ่งบอกเป็นความรู้สึกได้ว่า สิ่งๆนี้มันคือโอกาส เพราะมันคือช่วงเวลา และช่วงจังหวะที่ตอบสนองต่อความรู้สึกดีๆของคุณ โอกาสมีสองสองแบบคือโอกาสที่เราจะเป็นฝ่ายมอบให้คนอื่น หรือโอกาสที่คนอื่นจะเป็นฝ่ายหยิบยื่นให้เรา แต่ไม่ว่าใครจะหยิบยื่นให้ใครแต่สิ่งที่เรารับรู้ได้คือ โอกาสเกิดจากคนสร้างขึ้นมา เกิดได้จากทั้งตัวเราและตัวบุคคลอื่น และต่างฝ่ายต่างเป็นคนที่จะต้องหยิบยื่นให้ซึ่งกันและกัน หรือมอบโอกาสนั้นให้กับตนเอง คนที่ไม่แสวงหาโอกาสก็มีอยู่สองประเภทเช่นกัน คือคนที่รอคอยแต่ให้โอกาสนั้นวิ่งมาชนกับคนที่ไม่เคยคิดจะทำอะไรสักอย่างให้ประสบความสำเร็จ ประมานว่าชีวิตนี้เกิดมาเพื่อทำงานหาเงินแลกข้าวแลกน้ำไปวันๆก็พอ ไม่ตายก็อยู่ได้ แต่ทำไมไม่ลองคิดละว่า จะหาเงินแลกข้าวแลกน้ำไปจนตายเลยหรือเปล่า แล้วคิดว่าอายุขนาดนั้นจะยังทำไหวอยู่หรือไม่ ทำไมไม่ลองหาโอกาสให้ตัวเองได้ใช่เวลาบางช่วงของชีวิตหาเงินสักก้อนเพื่อเอามาใช้เลี้ยงตัวเองตอนแก่ เพราะเมื่อเราแก่ตัวลงต่อให้ใจสู้แค่ไหนแต่ร่างกายไม่ไหว เราก็ไม่อาจมีแรงที่จะออกไปทำงาน แล้วทำไมเราจึงไม่เปิดโอกาสให้กับตนเองได้ใช้ความพยายามในการสร้างชีวิตตั้งแต่ตอนที่แข็งแรงอยู่ล่ะ นี่คงเป็นเหตุผลที่ชัดเจนพอว่าทำไมเราต้องแสวงหาโอกาส เพราะถ้าเราปล่อยให้เวลาผ่านไปก็จะกลายเป็นว่า ตัวเรานี่แหละที่จะพลาดโอกาส เพราะเมื่อเราแก่ชรา ต่อให้มีโอกาสยื่นมาตรงหน้าเป็นหลายสิบอย่าง ถ้าสุขภาพเราไม่เอื้ออำนวย เราก็ไม่สามารถที่จะคว้ามันไว้ได้เช่นกัน
“คนที่ไม่คิดจะแสวงหาโอกาส คือคนที่ไม่มีทางจะประสบความสำเร็จ เหมือนการถูกหวย ถึงคุณจะถูกรางวัลที่ 1 แต่เงินก็มีให้อยู่อย่างจำกัด ถ้าคุณใช้จ่ายอย่างไม่ประหยัดหรือไม่รู้จักช่องทางการต่อยอดทางการเงิน สักวันมันก็ต้องหมดไป แต่หากเงินที่คุณได้มาเกิดจากความเพียรพยายามในการทำงานของคุณ ทุกสิ่งอย่างมีการวางแผนการใช้จ่ายและการลงทุนอย่างต่อเนื่อง คุณก็จะมีเงินใช้จ่ายตลอดไป เพราะคุณรู้ถึงความยากลำบากของการได้รับมันมา มากกว่า รอคอยจากดวงชะตาที่มาแบบฉาบฉวย”

โอกาสมีอยู่รอบตัวเต็มไปหมด
                แท้ที่จริงแล้วโอกาสนั้นมีรายล้อมอยู่รอบตัวเรา เพียงแต่เรามองไม่เห็นมัน คนที่เขาประสบความสำเร็จ เขาจะมองเห็นทุกๆสิ่งคือโอกาสแม้แต่ปัญหา เขาก็ยังนำมันมาสร้างเป็นโอกาสให้กับตัวเขาเองได้ โดยที่ไม่จำเป็นต้องรอให้ใครมาหยิบยื่นให้เขาเลย แต่จริงๆแล้วนั้นตั้งแต่เราเกิดมาเราก็ได้รับโอกาสที่ดีแล้ว คือมีพ่อมีแม่ มีครอบครัวที่อบอุ่น มีข้าวกิน มีบ้านอยู่ มีคนดูแล มีโอกาสได้เรียนหนังสือ เป็นต้น สิ่งเหล่านี้คือโอกาสชีวิตที่เด็กส่วนใหญ่จะมี แต่ก็มีเด็กอีกประเภทที่เราเรียกว่าเด็กด้อยโอกาสคือเด็กกำพร้า หรือเด็กที่พ่อแม่ไม่ให้ความรักความเอาใจใส่ ไม่ให้การศึกษาแก่ลูก คนเหล่านี้จะต้องรอการมอบโอกาสจากคนในครอบครัว และคนในสังคม แต่ถึงอย่างไรก็ไม่ได้หมายความว่าคนอย่างเราๆจะมีโอกาสที่เด่นเหนือกว่าพวกเขา เราอย่าลืมไปว่านอกจากชีวิตครอบครัว เรายังต้องมีชีวิตที่เป็นสังคมการทำงาน อาชีพ ความมั่นคง เงินทอง เกียรติยศชื่อสียง ก็ถือเป็นโอกาสขอความสำเร็จในระดับของคนทำงานที่เราต้องมาวัด มาแข่งขันโดยใช้ความสามารถของเราเอง ไม่ว่าใครจะเกิดมามีชีวิตครอบครัวแบบไหน แต่ความสำเร็จของชีวิตจริงๆนั้นก้อยู่ที่ตัวเราเป็นคนสร้างเป็นคนแสวงหา และเพียรพยายามด้วยตัวเอง ไม่ใช่เพราะรอแต่พึ่งพาโอกาสจากผู้อื่น เพราะสักวันคนที่จนอาจจะกลายเป็นมหาเศรษฐีได้เพียงเพราะความพยายามของเขา

โอกาสมักมาพร้อมอุปสรรคเสมอ
คนที่ไม่ประสบความสำเร็จย่อมมองเห็นอุปสรรคใหญ่เท่าภูเขา แต่สำหรับคนที่ประสบความสำเร็จนั้นย่อมมองเห็นอุปสรรคเล็กเท่าเม็ดทราย แล้วคุณล่ะ มองเห็นอุปสรรคบ้างหรือยัง คนทุกคนเกิดมาย่อมต้องเจออุปสรรค ส่วนเรื่องที่มันจะเป็นอุปสรรคเพียงเล็กน้อยหรืออุปสรรคใหญ่หลวงนั้น ย่อมขึ้นอยู่กับมุมมองของคน หากคุณมองปัญหาทุกเรื่องเป็นเรื่องใหญ่ คุณก็จะเครียดและคิดวิธีแก้ปัญหาได้ยาก หากคุณมองปัญหาให้เล็กลงคุณก็จะรู้สึกสบายขึ้นและมีสติในการคิดแก้ปัญหานั้นๆ และในบางทีปัญหานั้นๆก็อาจเป็นโอกาสดีๆที่เข้ามาในชีวิตคุณก็ได้ อย่างเช่น คุณจะสอบเข้ามหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นคณะที่คุณใฝ่ฝันอย่างมาก คุณเตรียมพร้อมทุกอย่างสำหรับการสอบ แต่แล้ววันที่เปิดสอบก็มาถึง และเป็นวันเดียวกันกับที่พายุพัดถล่มประเทศไทยเกิดน้ำท่วมแทบทุกจังหวัดรวมถึงหลายๆเขตในกรุงเทพฯด้วย แต่ทางมหาวิทยาลัยแห่งนั้นก็ยังคงไม่เลื่อนการสอบรับตรงออกไป แต่อุปสรรคของการเดินทางคือ การจราจรติดขัด สถานีรถไฟฟ้าปิดให้บริการ มีเพียงทางเดียวที่คุณจะสามารถเดินทางไปได้แบบรวดเร็วคือ ต้องนั่ง               วินมอเตอร์ไซค์ แต่เกิดมาในชีวิตนี้คุณไม่เคยนั่ง คุณจะตัดสินใจอย่างไร ระหว่างยองนั่งวินมอเตอร์ไซค์ไปสอบ หรือว่ายอมปล่อยเรื่องที่ไม่เคยนั่งรถมอเตอร์ไซค์เป็นปัญหาใหญ่ในชีวิตคุณ แต่ฉันเชื่อได้เลยว่าถ้าคุณมีความมุ่งมั่นที่แรงกล้าพอ คุณจะต้องลองทำในสิ่งที่คุณไม่เคยทำเพื่อให้สิ่งๆนั้นได้นำพาคุณไปสู่เป้าหมายที่วางไว้ เพราะหากคุณไม่ยอมไปสอบในวันนั้น คุณจะไม่มีโอกาสรู้เลยว่าคุณมีสิทธิ์ในการผ่านเกณฑ์การพิจารณาจากทางคณะกรรมการ คุณจะพลาดโอกาสที่จะเป็นหนึ่งในจำนวนนักศึกษาไม่กี่คนที่มีความพยายามในการเดินทางมาสอบทั้งๆที่ฝนตกพายุเข้าทั่วประเทศและนี่ก็เป็นหนึ่งในเกณฑ์การตัดสินใจของคณะกรรรมการ
แล้วถ้าเป็นตัวคุณเองล่ะ คุณจะเลือกที่จะนอนอยู่บ้านเฉยๆหรือจะลุยฝนพายุเพื่อไปตามหาฝัน ชีวิตนี้คุณได้เปิดโอกาสให้กับตัวคุณเองบ้างแล้วหรือยัง  หรือคุณจะปิดกั้นโอกาสของตัวคุณเองต่อไป
********************************************************************คนฉลาด มักมองเห็นคำตอบของทุกปัญหา
คนแพ้ มักมองเห็นปัญหาในทุกๆคำตอบ
 ในชีวิตคุณจะต้องเจอกับคนอยู่สองประเภท
ประเภทแรก คนที่มักจะมองเห็นแต่วิธีการดีๆในการแก้ไขปัญหาต่างๆไม่ว่าปัญหานั้นจะเป็นอุปสรรคที่ยากและลำบากมากแค่ไหน แต่คนเหล่านี้ จะมองมันเป็นเรื่องที่ท้าทายความสามารถ และมักจะมองว่า ปัญหาทุกปัญหาย่อมมีทางออกเสมอ

คนประเภทที่สอง เป็นคนที่มักจะมองเห็นแต่ปัญหาในทุกๆเรื่อง แม้เรื่องนั้นจะเป็นปัญหาเพียงเล็กน้อยแต่ก็สามารถมองปัญหาเล็กๆเป็นปัญหาที่ใหญ่เกินกว่าตัวเองจะแก้ไข หรือมักไม่คิดที่จะแก้ไขหรือหาคำตอบให้กับปัญหาเหล่านั้น เขามักมองว่าปัญหาเหล่านั้นเป็นเรื่องที่ยากลำบาก ต้องเวลาในการแก้ไขปัญหายากที่จะถึงเป้าหมาย และสุดท้ายก็จะโยนทิ้งทุกปัญหาและทุกโอกาสที่เขามาในชีวิต เพราะเขามักมองว่าสิ่งเหล่านั้นเป็นเรื่องที่ยากเกินไปที่จะทำให้สำเร็จ