ธุรกิจเครือข่ายเป็นอย่างไร

ทำไมต้องทำธุรกิจเครือข่าย
อย่างแรกเลยธุรกิจเครือข่ายเหมาะสำหรับคนที่อยากมีธุรกิจเป็นของตัวเอง  แต่ขาดความรู้ด้านการทำธุรกิจ และ มีเงินทุนน้อย สำหรับธุรกิจเครือข่ายนั้นเขาเปิดโอกาสให้กับคนที่มีสนใจอยู่แล้ว แต่สิ่งที่เราต้องมีคือ ความพยายาม ความขยัน ความมุ่งมั่น ไม่ว่าการทำธุรกิจใดๆ หากคุณขาดคุณสมบัติเหล่านี้ คุณก็ไม่มีทางที่จะประสบความสำเร็จไปได้  คุณลองมองนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จในปัจจุบันสิ กว่าที่เขาจะรวยได้จนถึงถึงวันนี้เขาต้องผ่านเรื่องราวอุปสรรคมามากมาย ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนที่ขาดทุน การโดนโกง การล้มละลาย แต่สุดท้ายเขาก็กลับมายิ่งใหญ่บนโลกธุรกิจได้ เพียงเพราะความพยายามของเขา สำหรับคุณแล้วคุณลองคิดดูว่าคุณจะประสบความสำเร็จกับธุรกิจนี้ได้อย่างไร ทั้งๆที่คุณไม่ต้องใช้เงินทุนมากมายเหมือนนักธุรกิจเหล่านั้น ไม่ต้องเสี่ยงต่อการล้มละลาย เพียงแค่คุณเปิดใจและเปิดโอกาสให้ตนเอง คุณก็จะสามารถประสบความสำเร็จกับสิ่งที่คุณต้องการได้
ธุรกิจเครือข่ายเหมาะกับคนที่อยากรวย  คุณคิดว่าคนที่ทำธุรกิจแต่มีความเสี่ยงกับคนที่ทำงานเป็นมนุษย์เงินเดินแต่มั่นคง อาชีพไหนที่มีโอกาสรวยเร็วกว่ากัน แน่นอนล่ะว่า คนที่ทำธุรกิจเพียงไม่กี่ปีก็สามารถมีเงินผ่อนบ้านหลังใหญ่มีเงินซื้อรถ แล้วคนที่ทำงานกินเงินเดือนล่ะทำกี่ปีถึงจะมีเงินเก็บไว้ผ่อนบ้าน ผ่อนรถสักคัน ทั้งๆที่ทุกๆเดือนคุณก็ยังคงต้องหมดเงินไปกับค่าใช้จ่ายต่างๆภายในบ้านคุณ จะเห็นได้ว่างานที่มั่นคงในเงินเดือน ถ้าคุณมองเพียงแค่ว่าอย่างน้อยก็ได้เงินทุกเดือน แต่ถ้าทำธุรกิจก็มีโอกาสขาดทุน อันนี้มันก็จริง แต่คุณลองคิดดูสิว่าคุณได้เงินเดือนเท่าๆเดิมมาเป็นเวลากี่เดือนกี่ปี แต่การทำธุรกิจก็มีขึ้นมีลงและหากช่องทางการทำธุรกิจมีแนวโน้มที่จะเติบโต คุณก็มีโอกาสมีเงินมากกว่าทุกๆเดือน ทั้งๆที่เมื่อเทียบกับการเป็นมนุษย์เงินเดือนที่คุณต้องรอลุ้นการปรับเงินเดือนและรอลุ้นโบนัสแต่ละปี  แล้วถ้าอยากทำธุรกิจล่ะ จะทำอย่างไร เงินทุนก็ไม่ค่อยมี แล้วจะประกอบธุรกิจอะไร กลัวลงทุนไปแล้วเจ๊ง ถ้ามองการทำธุรกิจอาจดูยุ่งยากสำหรับคนที่อยากเริ่มต้นและมีทุนทางการเงินน้อยอย่างเราๆ สำหรับธุรกิจนั้นมันไม่มีเพียงแค่ธุรกิจที่เราต้องลงทุนสร้างสินค้าเองเพียงอย่างเดียว ปัจจุบันยังมีธุรกิจประเภทเครือข่ายที่พร้อมมอบโอกาสให้กับคนที่สนใจในการทำธุรกิจ โดยเน้นที่การลงทุนน้อย แต่ได้ผลตอบแทนมหาศาล โดยที่คุณเองไม่จำเป็นต้องมีความรู้หรือประสบการณ์ด้านการทำธุรกิจเลยก็ได้ ขอเพียงแค่คุณมีความตั้งใจจริงก็พอ และคุณก็สามารถที่จะดูแลธุรกิจนี้ให้ดีเสมือนเป็นของคุณเองได้ จะเห็นได้ว่าเมื่อคุณเจอช่องทางสู่ความสำเร็จทางธุรกิจที่พร้อมลดความเสี่ยงต่อการที่คุณจะต้องเหนื่อยกับการทำธุรกิจเองด้วยเงินก้อนจำนวนมากแถมยังต้องรอลุ้นผลประกอบการแต่ละเดือน คุณลองคิดดูเองแล้วกันว่าคุณจะเลือกธุรกิจเครือข่ายที่มีความมั่นคงในตัวมันเองโดยที่คุณสามารถเป็นหุ้นส่วนแบบง่ายๆหรือคุณเลือกที่จะสร้างความยุ่งยากทางธุรกิจให้กับตัวคุณอง
คุณจะยังลังเลอยู่อีกหรือไม่กับการที่จะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของธุรกิจเครือข่ายเพื่อสร้างรายได้และความสำเร็จให้กับชีวิตคุณ

ธุรกิจเครือข่ายสำหรับหลายๆคนแล้วเชื่อได้เลยว่า ต้องคิดว่าเป็นธุรกิจแชร์ลูกโซ่แน่นอน หลอกลวง ต่างๆสารพัดคำที่คนจะด่า สาเหตุก็เพราะสิ่งที่เขาเคยได้ยินสิ่งที่เขาเคยเห็น หรือคนใกล้ตัวเคยทำแล้วไม่ประสบความสำเร็จ จึงทำให้เขามองรูปแบบธุรกิจเครือข่ายไปในทางที่ไม่ดี ในทางกลับกันธุรกิจเครือข่ายนี่แหละที่เป็นช่องทางให้คนประสบความสำเร็จในชีวิตได้มากที่สุด และใช่ว่าทุกธุรกิจจะหลอกลวงเหมือนกันหมด เพราะถ้าคุณได้ลองเข้ามาสัมผัสและมีโอกาสเจอกับทีมงานที่ดีที่พร้อมจะช่วยเหลือคุณในการทำธุรกิจเครือข่าย คุณก็มีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จกับธุรกิจนี้เช่นกัน



ธุรกิจ MLM กับ ธุรกิจเครือข่าย เหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร?

ธุรกิจ MLM กับ ธุรกิจเครือข่าย
ตามหลักแล้วคำว่า MLM และ Network Marketing  มีความหมายที่แตกต่างกัน โดย MLM จะหมายถึง แผนธุรกิจและแผนการจ่ายค่าตอบแทน ส่วน Network Marketing  จะหมายถึง ธรรมชาติของธุรกิจ นั่นคือ การสร้างเครือข่ายผู้บริโภค แต่บางกรณี เราอาจจะแยกคำว่า MLM ออกจากคำว่า Network Marketing   โดยจัดแบ่งตามชนิดของสินค้าบริษัท และตามธรรมชาติของผู้จำหน่ายอิสระ
ธุรกิจ MLM
สินค้า ของบริษัท อาจจะไม่จัดอยู่ในสินค้าประเภทสินค้าอุปโภคบริโภคที่ใช้แล้วหมดไป เช่น บริษัท Tupperware ที่ขายกล่องใส่อาหารประเภทต่างๆ หรือบริษัท Discovery Toys ที่ขายของเล่นเด็กเป็นต้น โยสินค้าเหล่านี้ โดยทั่วไปแล้วตัวแทนจำหน่ายอิสระอาจไม่ใช่ผู้บริโภคสินค้าเหล่านี้ ทำให้เป็นไปได้ยาก ที่เพื่อน คนในครอบครัว หรือคนรอบตัวเราจะมั่นใจในคุณภาพของสินค้าบริษัท เพราะเราไม่มีโอกาสทดลองใช้สินค้านั้นก่อน
ธุรกิจเครือข่าย
สินค้าบริษัทจัดอยู่ในประเภทสินค้าอุปโภคบริโภคที่ใช้แล้วหมดไป เช่น ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดต่างๆ เครื่องสำอาง อาหารเสริม เป็นต้น ซึ่งสินค้าประเภทนี้โดยทั่วไปแล้ว เป็นสินค้าจำเป็นที่ตัวผู้จำหน่ายอิสระจะต้องใช้ จะเป็นผลดีในการแบ่งปันประสบการณ์การใช้สินค้าที่ชอบ บอกต่อคนรอบข้าง เพื่อนำไปสู่การสร้างธุรกิจในอนาคต
วิธีแยกธุรกิจเครือข่ายออกจากแชร์ลูกโซ่
·       แชร์ลูกโซ่จะมีค่าสมัครสมาชิกที่มีราคาสูง โดยที่คนแนะนำสมาชิกใหม่จะได้เงินโบนัส ทันทีที่มีการสมัครสมาชิกใหม่ ส่วนธุรกิจเครือขายจะมีค่าสมัครสมาชิกที่ราคาถูก และผู้แนะนำสมาชิกใหม่จะไม่ได้รับส่วนเงินแบ่งจากค่าสมัครสมาชิก
·       แชร์ลูกโซ่จะเน้นที่การสมัครสมาชิก แต่เน้นที่ตัวสินค้า ขณะที่ธุรกิจ MLM จะเน้นที่การแนะนำสินค้าอุปโภคบริโภค ซึ่งใช้แล้วหมดไป และก่อให้เกิดการซื้อซ้ำ เพื่อสร้างรายได้ในระยะยาว
·       แชร์ลูกโซ่จะมีสินค้าที่มีราคาสูงผิดปกติ และมาพร้อมกับค่าสมัครสมาชิก ในขณะที่ธุรกิจขายตรง จะขายสินค้าที่ราคาเป็นธรรม เนื่องจากเป็นการเปลี่ยนช่องทางการใช้ค่าการตลาดจากการโฆษณา ค้าส่ง และค้าปลีก และนำมาจ่ายให้กับนักธุรกิจเครือข่ายแทน
·       แชร์ลูกโซ่จะอยู่กับสมาชิกไม่นาน (ประมาณ 1-2 ปี) เพราะหากจำนวนสมาชิกใหม่ลดลง แชร์ลุกโซ่จะไม่มีเงินโบนัสไปจ่ายสมาชิกเก่า เพราะฉะนั้น บริษัทที่มีประวัติความเป็นมาพอสมควร ประกอบธุรกิจมานานกว่า 2 ปี จึงมีแนวโน้มที่จะไม่ใช่ธุรกิจแชร์ลูกโซ่
·       แชร์ลูกโซ่จะไม่สามารถแซงกันได้ทั้งในเรื่องของตำแหน่งและรายได้ ส่วนธุรกิจเครือข่ายสามรถแซงกันได้ ขึ้นอยู่กับความขยันของแต่ละคน
·       แชร์ลูกโซ่จะไม่เน้นการอบรมพัฒนาศักยภาพนักธุรกิจ แต่จะเน้นเรื่องการหารายได้เพียงอย่างเดียว
·       แชร์ลูกโซ่จะเป็นสินค้าที่ไม่มีอยู่จริง หรือสินค้าไม่มีคุณภาพ สินค้าที่ราคาสูงเกินจริงไม่ผ่าน อย. หรือไม่ผ่านการตรวจสอบจาก สคบ
Multi-level Marketing หรือ MLM
มีผู้แปลเป็นภาไทยว่า “การขายตรงแบบหลายชั้น”

จริงๆแล้ว คำว่า MLM เป็นคำที่เรียกใช้แผนธุรกิจ (Marketing Plan) และแผนการจ่ายค่าตอบแทน (Compensation Plan) ของธุรกิจขายตรง


ธุรกิจเครือข่าย MLM คือการทำการตลาดรูปแบบหนึ่ง มีสามวิธีหลักๆ ในการเคลื่อนสินค้าและบริการ คือ
1. Retailing หรือ การขายปลีก รูปแบบการขายปลีกจะพบเห็นทั่วไป เช่นร้านสะดวกซื้อ ร้านขายยา ซูเปอร์มาร์เก็ต และห้างสรรพสินค้า เป็นต้น เป็นการซื้อสินค้าโดยที่ให้ผู้บริโภคเดินเข้าไปเลือกหยิบสินค้าที่ต้องการและนำมาชำระเงินที่เคาเตอร์ทางออก
2. Direct Sales (Single-Level Marketing) หรือ การขายตรง คือการเคลื่อนสินค้าไปสู่ผู้บริโภค ผ่านทางเทคนิคของการขาย เช่น การไปบ้านลูกค้าเพื่อนำเสนอสินค้า การโทรศัพท์ไปขายของให้กับลูกค้า การขายตรงบางครั้งถือว่าเป็นการขายที่ไม่มีพ่อค้าคนกลาง (เช่น ร้าน Retail หรือ บริษัทตัวแทนจำหน่าย) ยกตัวอย่าง (แต่ไม่เสมอไป) เช่น การขายประกัน เครื่องครัว สารานุกรม สาวขายเอว่อน  มิสทีน
3. Multi-Level Marketing  (MLM) หรือ การตลาดเครือข่าย คือสิ่งที่เราจะพูดถึงในบทความนี้ เราไม่ควรสับสนระหว่างสองอย่างข้างบน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กับการขายตรง คนส่วนใหญ่มักสับสนระหว่างการตลาดเครือข่ายกับการขายตรง
ข้อแตกต่างอีกอย่างของ MLM กับการขายตรงนั้นคือ
การ Sponsor ผู้จำหน่ายคนอื่นๆ หรือ การหาสมาชิกใหม่ อย่างไรก็ตาม การ Sponsor กับการหาสมาชิกนั้นต่างกันอย่างแน่นอน คุณ Sponsor คนบางคน แล้ว สอนให้เขาทำสิ่งที่คุณทำอยู่ เพื่อให้เขาสร้างธุรกิจของเขาเอง การ Sponsor คนบางคน กับการทำให้คนบางคนเซ็นใบสมัครนั้นต่างกันมาก เมื่อคุณ “Sponsor” ใครบางคน คุณกำลังให้คำมั่นสัญญาที่จะช่วยเขาจนกว่าเขาจะประสบความสำเร็จ หากคุณไม่ประสงค์ที่จะให้คำมั่น ก็เหมือนกับคุณกำลังทำร้ายเขาถ้าคุณทำให้เขาเซ็นใบสมัคร
ดังนั้น มันเป็น ความรับผิดชอบของผู้แนะนำที่จะสอนผู้ที่เขานำเข้ามาในธุรกิจให้รู้ถึงทุกสิ่งทุกอย่างในธุรกิจ เช่น การสั่งสินค้า การจดบันทึกความคืบหน้าในธุรกิจ การเริ่มต้น วิธีในการฝึกอบรม เพราะการช่วยเหลือเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้ธุรกิจเครือข่ายเติบโต และสามารถสร้างองค์กรให้เกิดความมั่นคงและนำไปสู่ความสำเร็จได้
 ข้อดีของธุรกิจเครือข่าย
ในปัจจุบันสภาพเศรษฐกิจมีความผันผวนไปตามสถานการณ์บ้านเมือง และอัตราการว่างงานก็มีสูงขึ้น ไม่ว่าจะเป็นนักศึกษาจบใหม่  หรือแม้แต่คนระดับแรงงาน นอกจากนี้คนที่มีโอกาสทำงานประจำก็ยังมีรายได้ที่ไม่เพียงพอต่อค่าใช้จ่าย และธุรกิจเครือข่ายก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ปัจจุบันมีคนเริ่มให้ความสนใจมากขึ้น เพื่อที่จะใช้เป็นช่องทางในการเพิ่มรายได้ให้กับตนเอง แต่สิ่งสำคัญคือต้องฝึกทักษะให้มีความเข้าใจก่อนที่จะลงมือทำเพื่อให้เกิดความสำเร็จในธุรกิจเครือข่าย
สำหรับข้อดีของธุรกิจเครือข่า
1.เปิดโอกาสให้กับทุกคนเปลี่ยนตัวเองในด้าน E (Employee) ลูกจ้าง และ S (Self Employee)                    นักธุรกิจส่วนตัวมาเป็นคนในด้าน B (Business Owner) เจ้าของกิจการ
2.สามารถทำเป็นงานเสริมควบคู่กับงานประจำได้
3.เป็นการสร้างความมั่นคงให้กับชีวิตตนเอง และครอบครัว
4.เป็นงานที่ช่วยผ่อนแรง เพราะเราสามารถหยุดทำงานเมื่อเราทำไปถึงจุดหนึ่ง และจะสามารถสร้างรายได้ได้โดยไม่มีหยุด
5.ช่วยร่นระยะเวลาความสำเร็จ หมายความว่าเราไม่จำเป็นต้องใช้เวลาทำงานทั้งชีวิตเก็บเงินหรือเพื่อรอเกษียณ แต่จะใช้เวลาทำงานเพียง1-2ปีก็มีรายได้ที่สามารถเกษียณได้ทั้งชีวิต
6.เป็นงานอิสระไม่มีกำหนดเวลา ไม่มีการบังคับ ความสำเร็จขึ้นอยู่กับความมุ่งมั่นและตั้งใจ
7.เครือข่ายเป็นทรัพย์สินที่มีเพิ่มพูนขึ้นได้ด้วยตัวเองตลอดเวลา
8.มีอิสรภาพทางการเงินและมีเวลาอย่างที่ต้องการ
9.เป็นมรดกให้ลูกหลาน
10.เป็นการพัฒนาตนเองทั้งด้านความรู้และความสามารถ
11.ได้มีโอกาสรู้จักและร่วมงานกันผู้คนมากมาย หลากหลายสาขาอาชีพ
12.ได้มีโอกาสท่องเที่ยวทั้งใน และ ต่างประเทศ
13.เป็นธุรกิจของตนเอง ลงทุนน้อย ไม่มีความเสี่ยง ไม่มีนายจ้างลูกจ้าง สมารถขยายธุรกิจไม่จำกัด
14.เปิดโอกาสให้ทุกคนเท่าเทียมกัน ไม่จำกัดการศึกษา เริ่มต้นเหมือนกันหมด ได้รับความเสมอภาค
ได้รับการยกย่องในสังคม ได้ความยุติธรรม ไม่มีการแบ่งชั้นวรรณะ
15.เป็นธุรกิจแห่งการแบ่งปัน แบ่งความรู้ แบ่งปันค่าใช้จ่าย แบ่งปันเวลา แบ่งปันโอกาสทองของชีวิต


การเลือกธุรกิจเครือข่าย

บริษัทต้องชัดเจน บริษัทมีตัวตน มีสำนักงาน พิสูจน์ได้ มีความเป็นไปได้ว่าจะอยู่ยาวดูหลายๆอย่าง ประธานเป็นใคร วิสัยทัศน์เป็นไง ผู้บริการมีประสบการณ์ไหม โรงงานมีไหม ควบคุมตันทุนได้ไหม หนังสือรับรองบริษัท ใบอนุญาตขายตรง สคบ มีหรือเปล่า

สินค้าต้องมีคุณภาพ มีสินค้าหลากหลาย ราคาเหมาะสม ซื้อซ้ำได้ง่าย เหมาะสมกับคนไทย

การเริ่มต้นลงทุนไม่มาก ต้องสะสมแต้มได้ ไม่มีความเสี่ยง ไม่ต้องซื้อสินค้าจำนวนมาก

รักษายอดส่วนตัวไม่มากเกินไป เพราะคนใหม่เมื่อมาสมัครพึ่งเริ่มต้นทำงานแล้วอาจยังไม่มีรายได้หมุนเวียนมากนัก ดังนั้นควรมีแผนที่ ไม่รักษายอดก็ยังรับรายได้ได้ด้วยบางข้อ และรักษายอดไม่มากเพื่อรับรายได้ทุกข้อ

แผนการตลาดยุติธรรม ไม่มีข้อแม้ซ่อนเร้นลึกลับวุ่นวาย ไม่ปวดหัว เข้าใจง่าย ทำง่ายได้เงินเร็ว เป็นแผนที่ช่วยกันได้ ไม่บังคับโครงสร้างมากจนเกินไป

ที่ปรึกษาหรือทีมงาน ต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญ และสามารถถ่ายทอดช่วยเหลือสนับสนุน ให้คุณประสบความสำเร็จได้จริง